รอยช้ำจากการฉีดหน้า เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีดูแลให้หายเร็วขึ้น

รอยช้ำจากการฉีดหน้า

การฉีดหน้าเป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมฟิลเลอร์ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ หรือเมโสหน้าใส แต่หนึ่งในอาการที่หลายคนกังวลหลังทำคือ รอยช้ำจากการฉีดหน้า ซึ่งเกิดขึ้นได้เป็นปกติและสามารถดูแลให้ดีขึ้นได้

รอยช้ำที่เกิดขึ้นอาจทำให้บางคนรู้สึกกังวล แต่ความจริงแล้วเป็นเพียง อาการชั่วคราว ที่สามารถบรรเทาได้ด้วยการดูแลที่ถูกต้อง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับรอยช้ำจากการฉีดหน้า รวมถึงวิธีลดอาการช้ำ พร้อมแนะนำแนวทางดูแลหลังทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอย่างรวดเร็ว

รอยช้ำจากการฉีดหน้า เกิดจากอะไร?

รอยช้ำที่เกิดขึ้นหลังการฉีดหน้าส่วนใหญ่มาจาก การกระทบของเข็มกับเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดอาการฟกช้ำหรือจ้ำเลือดเล็กๆ ซึ่งระดับความช้ำมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • สภาพผิวของแต่ละคน หากเป็นคนที่เส้นเลือดฝอยเยอะหรือผิวบอบบาง อาจมีโอกาสช้ำมากกว่าคนทั่วไป
  • เทคนิคของแพทย์ การฉีดโดยแพทย์ที่มีความชำนาญจะช่วยลดโอกาสเกิดรอยช้ำได้
  • ขนาดของเข็มและตำแหน่งที่ฉีด บางจุด เช่น บริเวณใต้ตาหรือร่องแก้ม มีเส้นเลือดฝอยเยอะ ทำให้ช้ำง่ายกว่าจุดอื่น
  • การดูแลหลังฉีด หากหลังฉีดมีการนวด กด หรือกระทบกระเทือนผิวมากเกินไป อาจทำให้รอยช้ำรุนแรงขึ้น

รอยช้ำจากการฉีดหน้ามักจะหายได้เองภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน แต่ก็มีวิธีที่ช่วยให้รอยช้ำลดลงเร็วขึ้น

รอยช้ำจากการฉีดหน้า พบได้ในโปรแกรมอะไรบ้าง?

  • โปรแกรมฟิลเลอร์ การเข้าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มผิวและปรับรูปหน้า อาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ โดยเฉพาะบริเวณที่มีเส้นเลือดเยอะ เช่น ใต้ตา ขมับ และร่องแก้ม
  • โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ แม้ว่าโบท็อกซ์จะเป็นการฉีดสารที่ช่วยลดริ้วรอยและปรับกล้ามเนื้อให้เรียบเนียน แต่หากเข็มสัมผัสกับเส้นเลือดฝอย อาจทำให้เกิดรอยช้ำเล็กน้อยได้
  • โปรแกรมเมโสหน้าใส เมโสหน้าใสเป็นการฉีดวิตามินบำรุงผิวเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง เนื่องจากเป็นการฉีดหลายจุดบนใบหน้า โอกาสเกิดรอยช้ำจึงอาจสูงกว่าการฉีดประเภทอื่น
  • โปรแกรมฉีดลดไขมันหน้า การฉีดลดไขมันหรือสลายไขมันบนใบหน้า อาจทำให้เกิดรอยช้ำได้ในบางกรณี โดยเฉพาะในบริเวณที่มีไขมันหนาและต้องใช้ปริมาณยามาก

ดูแล รอยช้ำจากการฉีดหน้าให้หายไว ทำอย่างไรดี?

แม้ว่ารอยช้ำจากการฉีดหน้าจะหายไปเองตามธรรมชาติ แต่การดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้รอยช้ำจางลงเร็วขึ้น

ดูแล รอยช้ำจากการฉีดหน้า ให้หายไว

  • ประคบเย็นทันทีหลังฉีด ใช้เจลเย็นหรือถุงน้ำแข็งห่อผ้าบางๆ ประคบบริเวณที่ฉีดประมาณ 10-15 นาทีเพื่อลดอาการบวมและป้องกันการเกิดรอยช้ำ
  • หลีกเลี่ยงการกดหรือสัมผัสแรงๆ บริเวณที่ฉีด หลังฉีดควรหลีกเลี่ยงการกด นวด หรือถูบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นเลือดฝอยเกิดการอักเสบ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารที่ทำให้เลือดไหลเวียนเร็ว อาหารบางประเภท เช่น อาหารเผ็ด ของหมักดอง และแอลกอฮอล์ อาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวและทำให้รอยช้ำเด่นชัดขึ้น
  • ดื่มน้ำมากๆ และทานอาหารที่ช่วยลดการอักเสบ อาหารที่มีวิตามินเค วิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักใบเขียว ส้ม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ช่วยให้เส้นเลือดแข็งแรงและลดอาการช้ำได้
  • ใช้ครีมหรือยาแก้ฟกช้ำ สามารถใช้ครีมหรือยาแก้ฟกช้ำที่มีส่วนผสมของอาร์นิกาหรือวิตามินเคทาบางๆ บริเวณที่มีรอยช้ำเพื่อช่วยให้จางลงเร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก 24-48 ชั่วโมงแรก การออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากอาจทำให้เลือดไหลเวียนเร็วขึ้น ซึ่งอาจทำให้รอยช้ำขยายตัว
  • ทำตามคำแนะนำของแพทย์ที่ฉีด ข้อนี้เรียกได้ว่าสำคัญสุด คือฟังคำแนะนำของแพทย์เช่นควรทำอะไรเพิ่ม ควรทานยาไหม หรือ หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามอะไรบ้าง

เลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ Cosmo Clinic เพื่อผลลัพธ์ที่มั่นใจ

ที่ Cosmo Clinic เราให้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมให้คำแนะนำก่อนและหลังทำเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูดีและเป็นธรรมชาติ

รวมถึงช่วยลดโอกาสการเกิดรอยช้ำหลังฉีด ด้วยเทคนิคที่อ่อนโยนและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อเลือกโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ Cosmo Clinic

  • การประเมินและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • เทคนิคการฉีดที่ช่วยลดโอกาสเกิดรอยช้ำ
  • ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่สามารถตรวจสอบได้
  • คำแนะนำการดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด เพื่อช่วยลดรอยช้ำและทำให้ผลลัพธ์ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ

หากคุณต้องการเติมเต็มใบหน้าและแก้ไขจุดบกพร่องอย่างมั่นใจ Cosmo Clinic พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลคุณในทุกขั้นตอน