filler

ใบหน้า และ รูปหน้าของแต่ละคนถูกสร้างสรรค์มาแตกต่างกันตามพันธุกรรม และ เชื้อชาติ เราจึงเห็นได้จากความสวยงามในบรรทัดฐานของแต่ละประเทศนั้นมีความแตกต่างกัน  แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกคนอยากจะมีใบหน้าที่สมดุลเหมือนกันทั้งหมด นวัตกรรมการฉีดสารเติมเต็ม หรือ Filler จึงมีบทบาทในฐานะตัวช่วยเพิ่มความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ช่วยทำให้เกิดความมั่นใจในการใช้ชีวิต ดังนั้น หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่สนใจอยากเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ จำเป็นอย่างยิ่งที่ควรจะมีการศึกษารายละเอียดของ Filler ให้เข้าใจมากที่สุด

ฟิลเลอร์ Filler คืออะไร

ฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารเติมเต็มที่อยู่ในรูปแบบของเหลว เพื่อช่วยเติมเต็มส่วนที่เป็นร่องลึกตามจุดต่างๆ บนใบหน้า เช่นร่องแก้ม ขมับ ใต้ตา แก้มตอบ และยังสามารถฉีดเพื่อเติมเต็มริมฝีปาก คางให้ดูสวยขึ้น หรือฉีดบริเวณผิวหนังชั้นตื้นทำให้เพื่อช่วยเรื่องการอุ้มน้ำของผิว ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล เรียบเนียน และ ดูอ่อนเยาวน์ลงอย่างรวดเร็ว

ฟิลเลอร์คืออะไร

ประเภทของฟิลเลอร์

สารเติมเต็มชนิดต่างๆจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทนั่นคือ สารเติมเต็มชนิดแบบชั่วคราวสลายได้ (Temporary filler) ,สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler) และ สารเติมเต็มแบบถาวรที่ไม่สลาย (Permanent filler)

1. สารเติมเต็มแบบชั่วคราว (Temporary Filler)

สารเติมเต็มแบบชั่วคราว เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง ได้รับความนิยมมาก และ เป็นชนิดที่ผ่าน อย.ประเทศไทย เนื่องจากสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ จากเอนไซม์ Hyaluronidase ในร่างกาย สารเติมเต็มชนิดนี้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย ตัวอย่าง Temporary filler เช่น

  • สารในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) เป็นสารที่นิยมใช้มากที่สุด มีความปลอดภัย สลายได้หมด และหากไม่พอใจในผลลัพธ์หลังฉีด ก็สามารถฉีดสาร Hyaluronidase เพื่อสลายสารเติมเต็มได้ สารเติมเต็มในกลุ่มนี้มีหลายยี่ห้อ เช่น Neuramis, Restylane หรือ Juvederm
  • ไขมันของตัวเอง หรือเรียกว่าการเติมไขมัน เหมาะกับผู้ที่ต้องการฉีดครั้งละมากๆ มีข้อเสียคือ หลังทำการเติมไขมันอาจจะมีใบหน้าบวมมาก ต้องใช้ระยะเวลาในการพักฟื้น 7-14 วัน

2. สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร (Semi-Permanent Filler)

เช่น สาร PMMA (Polymethyl-methacrylate),สารโพลีอัลคิลลิไมด์ (Polyakylimide)

และ สารโพลีแลคตดิก แอสิด PLLA (Polylactic acid)

สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวรจะมีอายุยาวกว่าสารเติมเต็มแบบชั่วคราว โดยปัจจุบันยังไม่ได้รับความนิยมมากนักในการใช้งาน เนื่องจากสามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงได้มากกว่าสารชนิดไม่ถาวร

3. สารเติมเต็มแบบถาวร (Permanent Filler)

ตัวอย่างสารเช่น ซิลิโคนเหลว หรือ พาราฟิน

เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมมากในอดีต แต่ในปัจจุบันไม่นิยมใช้ เนื่องจากก่อให้เกิดปัญหากับผู้ฉีดมากที่สุด เพราะเป็นสารชนิดที่ไม่สลาย สารเติมเต็มชนิดนี้จะทำปฎิกิริยากับเนื่อเยื่อข้างเคียงของใบหน้าทำให้เกิดอาการแข็งเป็นก้อน หรือที่เรียกว่าเป็นพังผืด หรือไหลลงไปรวมกับจุดอื่น ๆ ของใบหน้า ทำให้ใบหน้าผิดรูป การก้ไขคือการทำศัลยกรรมเพื่อขูดสารเติมเต็มชนิดนี้ออก

ประเภทของฟิลเลอร์แต่ที่ Cosmo Clinic เลือกใช้

reslyt

Restylane Lyft Lidocaine

Restylane Lidocaine

resvital

Restylane Vital Light

neuramis

Neuramis Deep

คำถาม : หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?

คำตอบ : Filler Neuramis Deep สามารถอยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน ส่วน Restylane Lyft
จะอยู่ได้นานที่สุดที่ 12 เดือน รองลงมาเป็นรุ่น Restylane Lidocaine ซึ่งอยู่ได้ 9-12 อยู่นานกว่า Restylane รุ่น Vital Light ซึ่งอยู่ได้ 6-9 เดือน

คำถาม : ฟิลเลอร์ทั้ง 2 ยี่ห้อนี้สามารถสลายได้ไหม?

คำตอบ : สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

คำถาม : หากต้องการทำศัลยกรรมต้องขูดฟิลเลอร์หรือไม่?

คำตอบ : ไม่ต้องขูด เพราะฟิลเลอร์ที่ฉีดสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติตามอายุของฟิลเลอร์แต่ละประเภท

คำถาม : ฉีดฟิลเลอร์แล้วจะเป็นก้อนไหม?

คำตอบ : ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์จะถูกเติมเต็มในส่วนที่ต้องการ โดยฟิลเลอร์จะไม่ไหลไปตำแหน่งอื่นๆ หรือจับตัวเป็นก้อนเพราะคลินิกเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและดูแลการฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์

วีดีโอ ลูกค้าจริง

Screen Shot 1
s3

Filler สามารถฉีดบริเวณไหนได้บ้าง

ฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยในการเติมเต็มใบหน้า

โดยทั่วไปนิยมฉีดฟิลเลอร์ที่ใบหน้าในจุดที่เกิดข้อบกพร่องในเรื่องริ้วรอย ร่องลึก เช่น ใต้ตา ร่องแก้มหรือช่วยยกกระชับผิวหน้าและปรับแต่งรูปหน้าบริเวณ คาง หน้าผาก เป็นต้น
 

ฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกกระชับใบหน้า (Filler lifting)

การที่ใบหน้าเราแก่ชราและหย่อนคล้อยลงนั้น สาเหตุสำคัญเกิดจากชั้นไขมันฝ่อลง กระดูกใบหน้าทรุดตัวลง และเส้นเอ็นที่ยึดใบหน้าหย่อนตัวลงทำให้ไม่มีตัวพยุงยึด ผลก็คือ ใบหย่อนคล้อยและเหี่ยวลง

นอกเหนือจากการเติมเต็มใบหน้าแล้ว ฟิลเลอร์ยังสามารถใช้เพื่อการยกกระชับใบหน้าได้อีกด้วยเทคนิค Cosmo Lifting โดยจะเป็นการเติมฟิลเลอร์เข้าในชั้นลึกถึงกระดูกและเส้นเอ็น เพื่อช่วยซัพพอร์ตผิวหนังที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาตั้งตรง

ฉีดฟิลเลอร์เพื่อช่วยในการปรับสภาพผิวหนัง เพิ่ม Skin quality

คุณสมบัติของฟิลเลอร์อีกอย่างหนึ่งคือการเติมน้ำให้กับผิว หรือ Hydration เนื่องจากไฮยาลูลอนิค แอดสิด HA สามารถดูดน้ำได้มากถึง 1000 เท่าของน้ำหนักโมเลกุลของตัวมันเอง จึงทำให้ผิวเรียบเนียน อุ้มน้ำ ดูเปล่งปลั่งสดใส ลดริ้วรอยเล็กๆจางลงได้ ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้คือ Juvederm Volite และ Restylane Vitallight

“ทำไมต้องฉีด Filler ที่ Cosmo Clinic”

Cosmo Clinic ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้มีที่มีเทคนิคการฉีดที่ปลอดภัยและมีประสบการณ์สูง นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ครบครัน สะอาด มั่นใจทุกการบริการ ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องอันตราย คุณหมอมือนิ่งมากๆ มั่นใจได้ว่า Filler ของทางคลินิกใช้เป็นตัวยาของแท้และสามารถตรวจสอบได้ และที่สำคัญการฉีดฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานประสิทธิภาพจะอยู่ได้นานที่สุดตามรุ่นของฟิลเลอร์อ่านเรื่อง ฟิลเลอร์ Restylaneอ่านเรื่อง ฟิลเลอร์ Neuramis

ฟิลเลอร์ปาก

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์

  1. ช่วยชะลอวัย ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
  2. ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแผลเป็น
  3. ปลอดภัยไม่มีปัญหาเรื่องสารตกค้าง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
  4. ฟิลเลอร์เหมาะกับการฉีดในจุดที่มีความละเอียดสูง เช่น ใต้ตา ร่องแก้ม คาง

การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์

  1. งดการออกกำลังกายหนักที่ทำให้เหงื่อออกมาก
  2. งดการจับ นวด คลึง บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ กรณีฉีดฟิลเลอร์ที่ริมฝีปาก
  4. ควรดื่มน้ำให้มากๆ ประมาณ 8-10 แก้ว/วัน

อาการแพ้ฟิลเลอร์ อันตรายหรือไม่?

อาการแพ้ฟิลเลอร์มีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมาก หากฉีดด้วยสารไฮยาลูรอนิกแอซิด (HA) ซึ่งมีข้อดีคือปลอดภัยไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ อยู่ในร่างกายได้นานและสามารถสลายได้เอง

  1. อาการแพ้ฟิลเลอร์ ที่มีลักษณะเป็นก้อน นูน แดงอักเสบ ซึ่งอาการแพ้ชนิดนี้บางครั้งอาจพบได้ภายหลังการฉีดฟิลเลอร์ผ่านไปแล้วเป็นเวลานาน อาจขึ้นอยู่กับอายุของฟิลเลอร์และภูมิคุ้มกันของคนไข้
  2. อาการแพ้ฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเป็นผื่น ลมพิษแบบรุนแรง จะพบได้น้อยมากหากมีอาการต้องรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษา อ่านเรื่องอันตรายจากฟิลเลอร์ที่ควรรู้

รีวิว ฟิลเลอร์

บทความที่น่าสนใจ

Promotion
twitter