หลายคนที่กำลังมองหาวิธี “ยกกระชับผิว” มักได้ยินชื่อ โปรแกรม Ultraformer กันบ่อย ๆ เพราะเป็นหัตถการที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยได้โดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก่อนจะตัดสินใจเข้ารับการทำ สิ่งหนึ่งที่ควรทำความเข้าใจคือ “ข้อเสีย” ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อที่คุณจะได้เตรียมตัวอย่างมั่นใจ และเลือกหัตถการที่เหมาะกับผิวของตนเองที่สุด
ทำความรู้จัก โปรแกรม Ultraformer ก่อนตัดสินใจทำ
ก่อนจะไปถึงเรื่องข้อดีหรือข้อเสีย การเข้าใจว่า โปรแกรม Ultraformer คืออะไรถือว่าสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ โปรแกรม Ultraformer เป็นหัตถการที่ใช้คลื่นอัลตราซาวด์พลังงานสูงแบบโฟกัส ส่งลงไปยังชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อส่วนลึก ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ใช้ในการผ่าตัดยกกระชับใบหน้า ความพิเศษคือสามารถยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ได้โดยไม่ต้องมีแผลหรือพักฟื้น
หลายคนเลือก โปรแกรม Ultraformer เพราะเป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับการศัลยกรรมยกกระชับ แต่ไม่เจ็บตัวเท่า ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน และยังเหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูความกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่รวดเร็วเหมือนหัตถการบางอย่าง แต่ค่อย ๆ เห็นการเปลี่ยนแปลงทีละน้อย ซึ่งทำให้ผิวดูดีขึ้นแบบที่คนรอบตัวอาจทักว่า “ดูสดใสขึ้น” มากกว่าจะรู้ว่าคุณไปทำอะไรมา
การรู้จัก โปรแกรม Ultraformer ในเชิงลึกแบบนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า หัตถการนี้เหมาะกับใคร ผลลัพธ์เป็นอย่างไร และควรเตรียมตัวอย่างไรก่อนตัดสินใจจริง ๆ
โปรแกรม Ultraformer ข้อเสีย มีอะไรบ้าง ?
- อาจเกิดอาการบวม แดง หรือเจ็บเล็กน้อยหลังทำ แม้ว่าโปรแกรม Ultraformer จะไม่ได้ทำให้เกิดบาดแผล แต่หลายคนอาจเจออาการบวมแดง หรือรู้สึกเจ็บ ๆ ตึง ๆ ในบางบริเวณ ซึ่งโดยปกติอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร ข้อเสียที่หลายคนอาจไม่ทันคิดคือ ผลลัพธ์จากโปรแกรม Ultraformer ไม่ได้อยู่ถาวร โดยทั่วไปจะคงอยู่ราว 6 เดือน – 1 ปี จากนั้นร่างกายก็จะกลับเข้าสู่สภาพปกติ จึงอาจต้องทำซ้ำหากอยากรักษาความกระชับต่อเนื่อง
- เห็นผลช้า ไม่ใช่ทำแล้วเปลี่ยนทันที ต่างจากบางหัตถการ เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ ที่เห็นผลหลังทำทันที โปรแกรม Ultraformer ต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน จึงจะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ เพราะต้องอาศัยเวลาในการสร้างคอลลาเจนใหม่
- ไม่เหมาะกับทุกสภาพผิว หากคุณมีผิวที่หย่อนคล้อยมาก ๆ หรือมีอายุที่ผิวสูญเสียความยืดหยุ่นไปมากแล้ว โปรแกรม Ultraformer อาจไม่ตอบโจทย์นัก เพราะพลังงานอาจไม่เพียงพอที่จะยกกระชับได้อย่างที่ต้องการ
- ค่าใช้จ่ายสูง หากต้องทำต่อเนื่อง ถึงแม้ Ultraformer จะไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่ แต่การทำหลายครั้งเพื่อคงผลลัพธ์ อาจทำให้ค่าใช้จ่ายรวมสูงกว่าที่คิดไว้
ข้อแนะนำหากกังวลเรื่องข้อเสียของโปรแกรม Ultraformer
การรู้ข้อเสียล่วงหน้าไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ควรทำ แต่เป็นโอกาสที่จะช่วยให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะสมกับผิวของตนเองมากกว่า เช่น
- หากกังวลเรื่อง “เห็นผลช้า” อาจเลือกเสริมด้วย โปรแกรมฟิลเลอร์ ในบางจุด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันที
- หากผิวหย่อนคล้อยมาก อาจต้องพิจารณาร่วมกับหัตถการอื่น เช่น โปรแกรม Ulthera Prime ที่เจาะลึกถึงชั้น SMAS ได้แม่นยำกว่า
- หากกังวลเรื่องงบประมาณ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการทำแบบพอดี ไม่เกินจำเป็น
แล้วหัตถการไหนเหมาะกว่ากัน ?
จริง ๆ แล้วไม่มีคำตอบตายตัวว่าควรเลือก Ultraformer หรือหัตถการอื่น สิ่งสำคัญคือการประเมินร่วมกับแพทย์ตามปัญหาผิว เช่น
- ผิวเริ่มหย่อนคล้อยเล็กน้อย – โปรแกรม Ultraformer อาจเพียงพอ
- ผิวหย่อนคล้อยชัด มีร่องลึก – อาจเหมาะกับ โปรแกรม Ulthera Prime หรือเสริมด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์
- อยากฟื้นฟูผิวโดยรวม – เลือกทำ โปรแกรม Ultraformer ร่วมกับการบำรุงอื่น ๆ ก็เป็นทางเลือกที่ดี
โปรแกรม Ultraformer ที่ Cosmoprime Clinic
ที่ Cosmoprime Clinic เรามีการใช้เครื่อง Ultraformer รุ่นใหม่ พร้อมทีมแพทย์ที่ใส่ใจในรายละเอียดของผิวคุณ โดยจะช่วยวิเคราะห์ปัญหา และแนะนำว่าควรใช้ Ultraformer เดี่ยว ๆ หรือควรร่วมกับหัตถการอื่น เช่น โปรแกรม Ulthera Prime, โปรแกรมฟิลเลอร์ หรือการดูแลผิวเสริมอื่น ๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นธรรมชาติและตรงใจที่สุด
บทสรุป โปรแกรม Ultraformer ข้อเสีย
แม้ว่า โปรแกรม Ultraformer จะเป็นตัวช่วยเรื่องยกกระชับผิวที่ได้รับความนิยม แต่ โปรแกรม Ultraformer ข้อเสีย ก็มีบางประการ เช่น ต้องรอผลลัพธ์ ไม่ถาวร และอาจไม่เหมาะกับทุกคน อย่างไรก็ตาม หากเข้าใจและเลือกทำร่วมกับโปรแกรมที่เหมาะสม คุณก็ยังสามารถได้ผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ได้ การปรึกษากับแพทย์คือก้าวสำคัญที่จะทำให้การตัดสินใจของคุณมั่นใจยิ่งขึ้น