ปรับรูปหน้าด้วยโปรแกรมโบท็อกซ์: สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจฉีด
สารบัญโปรแกรมโบท็อกซ์
โปรแกรมโบท็อกซ์ คืออะไร?
โปรแกรมโบท็อกซ์ คือ โปรตีนของโบทูลินั่ม ท็อกซิน ที่สกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ใช้ในการลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เมื่อฉีดเข้าไปจะออกฤทธิ์ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อที่มีริ้วรอยคลายตัวและทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น หรือหากฉีดบริเวณกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กราม หรือ น่อง จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและมีขนาดที่เล็กลง
โปรแกรมโบท็อกซ์ สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกจะไม่ได้อยู่อย่างถาวร ปกติแล้วโบท็อกจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน โดยขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ดังนี้
- ยี่ห้อของโบท็อกซ์ หากเลือกโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์สูงจะสามารถอยู่ในร่างกายได้นานกว่า โดยโบท็อกที่มีโปรตีนมากกว่าจะถูกทำลายได้ง่ายกว่าโบท็อกที่มีโปรตีนสูง
- ตำแหน่งของการฉีด หากฉีดโบท็อกบริเวณกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น แขน ไหล น่อง ระยะเวลาของการออกฤทธิ์จะสั้นกว่าเพราะมีปริมาณเส้นใยกล้ามเนื้อมากกว่า แต่ถ้าหากฉีดบริเวณที่มีกล้ามเนื้อเล็ก เช่น กราม หน้าผาก จะสามารถออกฤทธิ์ได้นานกว่า
โปรแกรมโบท็อกซ์เหมาะกับใครบ้าง?
โปรแกรมโบท็อกซ์เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการ:
- ลดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น รอยย่นหน้าผาก รอยตีนกา
- ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
- ชะลอวัยโดยไม่ต้องผ่าตัด
วิธีปฏิบัติตัวก่อนการฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรปฏิบัติดังนี้:
1. ควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาแพทย์ให้มั่นใจก่อน และ เลือกคลินิกที่ได้รับการรับรอง
2. หยุดยาหรืออาหารเสริมที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดรอยช้ำ เช่น แอสไพริน หรือวิตามินอี
3. งดการสครับหน้า 2-3 วันก่อนวันฉีดโบท็อก
4. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการ
วิธีการดูแลหลังการฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์
1. งดนอนราบ เป็นเวลา 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการไหลของโบท็อก
2. งดกิจกรรมที่ทำให้เกิดความร้อน เช่น ออกกำลังกายอย่างหนัก อบซาวน่า
3. งดการทำทรีตเม้นท์ด้วยเครื่อง RF หรือเลเซอร์ 2 สัปดาห์
4 ห้ามนวดหรือกดใบหน้า บริเวณที่ฉีด
ข้อห้ามของการฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์
1. ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
2. ผู้ที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
3. ผู้ที่มีอาการแพ้สาร Botulinum
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์
- รอยแดงหรือบวมเล็กน้อย
- รอยช้ำจากเข็ม
- อาการปวดหัวเล็กน้อย (ในบางกรณี)
- ในกรณีที่ฉีดผิดพลาด อาจเกิดการหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อบริเวณใกล้เคียง
คำถามที่พบบ่อย
คำถาม : หลังฉีดโปรแกรมโบท็อกกี่วันถึงเห็นผล?
คำตอบ : โบท็อกจะเริ่มเห็นผลในระยะ 1-2 สัปดาห์ และจะรู้สึกตึงเต็มที่ใน 2 สัปดาห์ ในส่วนของตำแหน่ง หางตา หน้าผาก กรอบหน้า แต่ในส่วนของกรามจะใช้เวลามากขึ้นเล็กน้อย โดยใช้เวลายุบเต็มที่ประมาณ 1 เดือน คุณหมอจะมีนัดติดตามผลทุกเคสเพื่อตรวจดูให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
คำถาม : ผลที่ได้อยู่ได้นานแค่ไหน
คำตอบ : โบท็อกซ์ของเราใช้ของแท้ อย.ไทย 100% ซึ่งจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน เวลาหมดฤทธิ์ ฤทธิ์ยาจะค่อยๆลดลงทีละน้อย ไม่ได้หายไปทันทีทันใด ทั้งนี้ระยะเวลาของโบท็อกซ์ขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเอง เช่นการสัมผัสความร้อน หรือการใช้งานกล้ามเนื้อ ด้วยค่ะ
คำถาม : มีเคลมไหม
คำตอบ : มีค่ะ ภายในการติดตามผลที่ 2-4 สัปดาห์คุณหมอจะช่วยตรวจดูว่าโบท็อกซ์ออกฤทธิ์เต็มที่แล้วหรือยัง หากยังมีส่วนใดที่ยังลงไม่หมด หรือยังมีจุดไหนที่ยังเหลือรอย สามารถเติมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
คำถาม : ตัวยาเป็นของยี่ห้ออะไร
คำตอบ : โบท็อกซ์ที่ใช้เป็นยี่ห้อ Aesto และ Naboของเกาหลีค่ะ และ Xeomi ของเยอรมัน ผ่านอย.ไทย 100% โดยยี่ห้อนี้เป็น Grade Premium ที่สุด ผลิตในโรงงานที่ใช้ robot มาตรฐาน ปลอดสารปนเปื้อน มีความบริสุทธิ์ถึง 99.51% ค่ะ เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ใช้เยอะที่สุด
คำถาม : โปรแกรมโบท็อกไม่จำกัดจำนวนยูนิต แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าต้องใช้หรือได้กี่ยูนิต
คำตอบ : คุณหมอจะประเมินจำนวนยูนิตที่ใช้เป็นเคสต่อเคสค่ะ เนื่องจากลักษณะกล้ามเนื้อของแต่ละคนไม่เท่ากัน หากฉีดน้อยไปจะทำให้เห็นผลไม่ดี แต่ถ้าฉีดมากไปจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดการดื้อยาโดยไม่จำเป็นค่ะ หากต้องการทราบจำนวนยูนิตที่ใช้ สามารถสอบถามคุณหมอตอนฉีดได้เลยค่ะ
คำถาม : หลังฉีดโปรแกรมโบท็อก หน้าบวมกี่วัน?
คำตอบ : อาการบวมหลังฉีดโบท็อกมักเกิดขึ้นเล็กน้อยและจะลดลงใน 1-3 วัน หากมีอาการบวมมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันที
คำถาม : หลังฉีดโปรแกรมโบท็อกออกกำลังกายได้ไหม?
คำตอบ : ควรงดออกกำลังกายหนักภายใน 24 ชั่วโมงแรก
คำถาม : หลังฉีดโปรแกรมโบท็อกกินยาพาราได้ไหม?
คำตอบ : สามารถกินยาพาราได้หากมีอาการปวด แต่ควรหลีกเลี่ยงยาแอสไพรินหรือยาแก้อักเสบชนิดอื่น
คำถาม : หลังฉีดโปรแกรมโบท็อกห้ามนอนราบหรือไม่?
คำตอบ : ใช่ ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบหรือก้มหน้าใน 4 ชั่วโมงแรก
คำถาม : หลังฉีดโปรแกรมโบท็อก กินกาแฟได้ไหม?
คำตอบ : ควรหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟใน 24 ชั่วโมงแรก เนื่องจากคาเฟอีนอาจกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้บวมมากขึ้น
คำตอบ : สามารถกินคอลลาเจนได้ เพราะไม่มีผลต่อโบท็อก
สรุปโปรแกรมโบท็อกซ์
โปรแกรมโบท็อกเป็นวิธีการปรับรูปหน้าที่สะดวก รวดเร็ว และไม่ต้องผ่าตัด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาใบหน้าโดยไม่ต้องพักฟื้น วิธีนี้ช่วยลดเลือนริ้วรอย ปรับรูปหน้าให้เรียว ลิฟต์กรอบหน้าให้คมชัด รวมถึงลดขนาดปีกจมูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนในเวลาเพียง 1-2 สัปดาห์ โปรแกรมบท็อกจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่มองหาวิธีเสริมความมั่นใจแบบไม่ยุ่งยาก
Cosmo Clinic มั่นใจ ใช้ผลิตภัณฑ์ของแท้ 100%
Cosmo Clinic ใช้เป็นผลิตภัณฑ์นำเข้าแท้ 100% สามารถตรวจสอบได้ มั่นใจ ได้ผลลัพธ์ชัดเจน คุณหมอจะฉีดเป็นตำแหน่ง ไม่แบ่งเป็นยูนิต คนไข้จึงสามารถวางใจได้ถึงคุณภาพ