ร้อยไหม

ร้อยไหม Thread Lifting

รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับการร้อยไหม: วิธีปรับรูปหน้าที่คุณควรรู้

การร้อยไหมเป็นเทคนิคเสริมความงามที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวยตามที่ต้องการ พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังลึก ทำให้ผิวเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยลึกที่โปรแกรมโบท็อกไม่สามารถแก้ไขได้ การร้อยไหมจึงเป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมในการยกกระชับผิว แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่น และฟื้นฟูการไหลเวียนโลหิตใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวหน้าดูสดใส เปล่งปลั่ง และมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

สารบัญการร้อยไหม

ร้อยไหมคืออะไร?

การร้อยไหมคือหัตถการที่ใช้เส้นไหมละลายสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อยกกระชับผิว ลดความหย่อนคล้อย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่บริเวณที่ร้อยไหม ทำให้ผิวดูเต่งตึงและอ่อนเยาว์

ร้อยไหมช่วยอะไรได้บ้าง?

  • ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
  • ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว V-Shape
  • ลดริ้วรอยและปรับผิวให้ดูเรียบเนียน
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
  • ลิฟต์กรอบหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น

ร้อยไหมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร?

  1. ไหม PDO (Polydioxanone):

    • นิยมใช้ที่สุดในวงการเสริมความงาม
    • สลายตัวได้ภายใน 6-12 เดือน
    • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและยกกระชับได้ดี
  2. ไหม PLLA (Poly L-Lactic Acid):

    • ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนมากกว่าไหม PDO
    • สลายตัวได้ช้ากว่า ใช้เวลา 12-18 เดือน
  3. ไหม PCL (Polycaprolactone):

    • เส้นไหมที่มีความยืดหยุ่นสูง
    • ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานที่สุด (18-24 เดือน)

ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด?

การเลือกไหมที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนและคำแนะนำจากแพทย์ เช่น หากต้องการยกกระชับระยะสั้น อาจเลือกไหม PDO แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่อยู่ได้นาน ไหม PLLA หรือ PCL อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

การเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

  1. ควรงดทานอาหารและวิตามินที่มีผลต่อการแข็งตัวของเกล็ดเลือด เช่น ยาแอสไพริน อาหารเสริมจำพวกวิตามิน E อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนรับบริการการร้อยไหม
  2. ต้องไม่มีแผลคีลอยด์ ไม่แพ้ยาชา
  3. งดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง ก่อนรับบริการ
  4. ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับประวัติการแพ้ยา

แต่ละตำแหน่งต้องใช้ไหมกี่เส้น?

  • ยกกระชับแก้ม: 4-10 เส้นต่อข้าง
  • ปรับกรอบหน้า: 6-12 เส้น
  • ลิฟต์จมูก: 4-6 เส้น
    จำนวนเส้นที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับปัญหาและความหย่อนคล้อยของผิวแต่ละคน
ร้อยไหม

ร้อยไหมอันตรายไหม?

หากทำโดยแพทย์ผู้ดำเนินการในสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน การร้อยไหมถือว่าปลอดภัย แต่หากทำในสถานที่ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อหรือเส้นไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง

ร้อยไหมไม่เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน หรือภูมิคุ้มกันบกพร่อง
  • ผู้ที่แพ้เส้นไหม
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง เช่น สิวอักเสบในบริเวณที่จะร้อยไหม
  • ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ผลข้างเคียงหลังการร้อยไหม

  • อาการบวมและรอยช้ำบริเวณที่ร้อยไหม
  • อาการเจ็บหรือตึงผิว
  • การอักเสบหรือติดเชื้อในบางกรณี

หลังร้อยไหมจะหายบวมตอนไหน?

อาการบวมมักลดลงใน 3-7 วันแรก และจะหายเป็นปกติภายใน 2 สัปดาห์

อันตรายจากพังผืดหลังร้อยไหม

พังผืดอาจเกิดขึ้นได้หากร้อยไหมจำนวนมากเกินไปหรือไหมไม่เหมาะสมกับผิวของผู้เข้ารับบริการ ซึ่งอาจทำให้เกิดการดึงรั้งผิวผิดธรรมชาติ

ร้อยไหมตกไวเพราะอะไร?

  • การเลือกใช้ไหมที่ไม่มีคุณภาพ
  • เทคนิคการร้อยไหมไม่ถูกต้อง
  • การดูแลหลังร้อยไหมไม่เหมาะสม เช่น นอนตะแคงหรือกดใบหน้าบ่อย

ข้อแนะนำหลักที่ต้องรู้: การดูแลหลังการร้อยไหม

  • ห้ามสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ร้อยไหม
  • นอนหงายเพื่อหลีกเลี่ยงการกดทับใบหน้า
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักใน 1 สัปดาห์แรก
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีสารเคมีรุนแรง
ไหมเงี่ยง

สรุปการร้อยไหม

การร้อยไหมเป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าและปรับรูปหน้าให้ดูอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ควรเลือกแพทย์ผู้ดำเนินการที่มีประสบการณ์ด้านการร้อยไหม ปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนและหลังร้อยไหมอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบสถานพยาบาลให้มั่นใจว่าได้มาตรฐาน

ทำไมควรร้อยไหมที่ Cosmo Clinic

Cosmo Clinic ใช้เส้นไหมคุณภาพสูง ซึ่งสามารถละลายสลายเองได้ภายใน 6-8 เดือน ไม่มีผลข้างเคียง ปลอดภัยและไม่เสี่ยงอาการแพ้อย่างแน่นอน ซึ่งการเลือกใช้ไหมขึ้นอยู่กับคนไข้แต่ละเคสซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสม และหลังการรับบริการคนไข้สามารถแต่งหน้า ทาครีมบำรุงได้ตามปกติ โดยไม่ต้องพักฟื้น เพียงแต่จะมีรอยช้ำหรือรอยเข็มเล็กๆ เท่านั้น โดยรอยต่างๆ จะหายไปเองใน 1 อาทิตย์