

โปรแกรม Profhilo คืออะไร? ฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์ด้วยเทคนิคใหม่ล่าสุด
นวัตกรรมการคืนความอ่อนเยาว์ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแข็งแรง ชุ่มชื้น ภายในระยะเวลาอันสั้น ตามรายงานของ The Times, โปรแกรม Profhilo คือการรักษาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปี 2019 ซึ่งเป็นการรักษาผิวที่ใช้เทคโนโลยีไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ในความเข้มข้นสูงสุด โดยมีการออกแบบพิเศษสำหรับผู้ที่ผิวขาดความยืดหยุ่นและความกระชับ
สารบัญ โปรแกรม Profhilo
โปรแกรม Profhilo คืออะไร และทำงานอย่างไร?
โปรแกรม Profhilo คือการรักษาผิวเพื่อการปรับโครงสร้างผิว (Skin remodeling) ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งใช้กรดไฮยาลูรอนิกในรูปแบบที่มีน้ำหนักเบาและไม่ผ่านกระบวนการ Crosslink (Non-crosslinked Hyaluronic Acid) มีความเข้มข้นของรดไฮยาลูรอนิกสูงถึง 64 มิลลิกรัม โดยใช้เทคโนโลยี NAHYCO Hybrid Technology ของบริษัท IBSA Group ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตกรดไฮยาลูรอนิก
การทำงานของ โปรแกรม Profhilo
แม้ว่าโปรแกรม Profhilo จะมีส่วนประกอบหลักเป็นกรดไฮยาลูรอนิกเช่นเดียวกับโปรแกรมฟิลเลอร์ แต่ไม่ถือว่าเป็นฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มโดยตรง เนื่องจาก Profhilo ใช้กรดไฮยาลูรอนิกในรูปแบบ Non-crosslinked ซึ่งแตกต่างจากฟิลเลอร์ที่ใช้กรดไฮยาลูรอนิกแบบ Crosslinked ที่มีการเชื่อมพันธะด้วยสาร BDDE เพื่อให้มีความคงตัวและสามารถเติมเต็มร่องลึกได้
จุดเด่นของโปรแกรม Profhilo คือการทำงานในการฟื้นฟูและปรับโครงสร้างผิวอย่างทั่วถึง โดยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งจะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์ กระชับ และชุ่มชื้นมากขึ้น โดยไม่ทำให้เกิดการแพ้หรืออาการอักเสบเหมือนกับฟิลเลอร์ เพราะไม่มีการใช้สารเชื่อมพันธะ BDDE ทำให้มีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย
โปรแกรม Profhilo ทำงานอย่างไร?
กรดไฮยาลูโรนิค (HA) มีคุณสมบัติเป็นสารที่ดูดน้ำได้ดี ซึ่งหมายความว่า Profhilo จะทำหน้าที่เป็นตัวเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวแทนการเติมเต็มเหมือนฟิลเลอร์ ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง ล้าหรือหมองคล้ำ โดยช่วยให้ผิวกลับมาดูสดใสและกระชับขึ้น ผลลัพธ์แรกจะเริ่มเห็นได้ภายใน 3-5 วันหลังการรักษา
ข้อดีหลักๆ ของการฉีดโปรแกรม Profhilo
-
กระตุ้นการปรับโครงสร้างผิว (Skin Remodeling)
การฉีด Profhilo ช่วยกระตุ้นกระบวนการปรับโครงสร้างผิว ซึ่งส่งผลให้ริ้วรอยและจุดด่างดำลดลง และทำให้ผิวดูยืดหยุ่นและกระชับขึ้น -
ปรับโครงสร้างของ Extracellular Matrix
Profhilo ช่วยปรับโครงสร้างของ extracellular matrix หรือโครงสร้างที่อยู่ระหว่างเซลล์ ซึ่งทำให้เซลล์สำคัญในผิวหนัง เช่น Keratinocytes (เซลล์ผิวหนังที่ชั้นนอกสุด) ได้รับการสนับสนุนในการป้องกันผิวจากอันตราย Fibroblasts (เซลล์ที่ช่วยสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน) จะได้รับการกระตุ้นให้สร้างเส้นใยที่มีความยืดหยุ่นและคงทนมากขึ้น รวมถึงเซลล์ไขมัน Adipocytes ที่ช่วยในการให้ความพยุงตัวแก่ผิวและช่วยให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้น -
กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน
Profhilo ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนชนิดต่างๆ เช่น คอลลาเจนประเภท 1, 3 และ 4 ซึ่งสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด คอลลาเจนประเภท 7 ช่วยให้ผิวแข็งแรงและช่วยสมานแผลได้ดีขึ้น ป้องกันไม่ให้ผิวเปราะบาง รวมถึงกระตุ้นการผลิตอีลาสตินในชั้นผิวเพื่อความยืดหยุ่นที่ดีขึ้น
โดยรวมแล้ว Profhilo ทำหน้าที่ในการกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยฟื้นฟูริ้วรอย รอยสิว จุดด่างดำ และปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูสดใสและกระชับขึ้น ทั้งยังช่วยให้กระบวนการทำงานของชั้นผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น


เหตุผลที่โปรแกรม Profhilo แตกต่างจากโปรแกรมฟิลเลอร์
- ไม่ทำให้เกิดก้อนหรือเพิ่มวอลลุ่ม: เนื่องจาก Profhilo ไม่มีการเชื่อมพันธะเหมือนฟิลเลอร์ จึงไม่ทำให้เกิดก้อนในผิวหนังหรือมีผลต่อการเพิ่มปริมาตรในบริเวณที่ฉีด
- การฟื้นฟูผิว: Profhilo ไม่ได้มุ่งเน้นการเติมเต็มเหมือนฟิลเลอร์ แต่เน้นที่การปรับปรุงคุณภาพผิวและกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในทุกชั้นของผิว
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว: ด้วยส่วนประกอบที่บริสุทธิ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย Profhilo จึงเหมาะสำหรับการรักษาผิวในทุกประเภท โดยไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงหรือการแพ้ที่อาจเกิดจากสารเติมเต็มทั่วไป
ด้วยการรับรองจาก อย.ยุโรป และ อย.ไทย Profhilo จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีอย่างยั่งยืน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโปรแกรม Profhilo
-
โปรแกรม Profhilo เหมาะกับใคร? Profhilo เหมาะกับผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น หมองคล้ำ หรือมีริ้วรอยเล็กๆ รวมถึงผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูสดใสและกระชับขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีการลดลงของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว
-
การฉีด Profhilo เจ็บไหม? การฉีด Profhilo อาจรู้สึกเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นการฉีดในชั้นผิวที่ไม่ลึกมาก แต่ส่วนใหญ่จะสามารถทนได้ และแพทย์มักจะใช้วิธีการบรรเทาความเจ็บด้วยการใช้ยาชา
-
ผลลัพธ์ของ Profhilo จะอยู่ได้นานแค่ไหน? ผลลัพธ์จากการฉีด Profhilo สามารถอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลหลังการรักษา โดยจะเห็นผลดีที่สุดภายใน 2 เดือนหลังจากการฉีดครั้งที่สอง
-
การฉีด Profhilo มีผลข้างเคียงหรือไม่? Profhilo เป็นการรักษาที่มีผลข้างเคียงน้อย เนื่องจากใช้กรดไฮยาลูโรนิคบริสุทธิ์และไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่มีสารเชื่อมพันธะ โดยปกติแล้วจะไม่มีผลข้างเคียงร้ายแรง แต่บางคนอาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน
-
ฉีด Profhilo ที่บริเวณไหนได้บ้าง? Profhilo สามารถฉีดได้ในบริเวณที่มีริ้วรอยหรือผิวขาดความยืดหยุ่น เช่น บริเวณใบหน้า, คอ, ลำคอ, และมือ
-
Profhilo ควรทำเมื่อไร? Profhilo ควรทำเมื่อคุณเริ่มเห็นริ้วรอยเล็กๆ หรือรู้สึกว่าผิวเริ่มขาดความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่อายุเริ่มมากขึ้น หรือเมื่อผิวแห้งและหมองคล้ำ