ฟิลเลอร์แบบทาดีไหม ? ถ้าเปรียบเทียบกับโปรแกรมฟิลเลอร์ฉีด

ฟิลเลอร์แบบทา

ยุคนี้ผลิตภัณฑ์ด้านความงามมีตัวเลือกหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ครีม เซรั่ม ไปจนถึงการทำหัตถการ เช่น โปรแกรมฟิลเลอร์ เพื่อช่วยเติมเต็มใบหน้าให้ดูมีมิติ ลดร่องลึก และเพิ่มความสดใสอย่างเป็นธรรมชาติ ในกลุ่มของผู้ที่เริ่มสนใจการดูแลใบหน้า อาจเคยได้ยินคำว่า “ฟิลเลอร์แบบทา” มาบ้าง หลายคนจึงเกิดคำถามว่า ฟิลเลอร์แบบทาดีไหม ? ใช้แทนการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ได้หรือเปล่า หรือหากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า ควรเลือกทำโปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีดไปเลยดีกว่า

บทความนี้พวกเราทีมงาน Cosmoprime Clinic จะมาอธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ พร้อมเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของแต่ละวิธี เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ฟิลเลอร์แบบทา

ฟิลเลอร์แบบทาดีไหม ? มาทำความรู้จักก่อน

ฟิลเลอร์แบบทา คือผลิตภัณฑ์ประเภทครีมหรือเซรั่มที่โฆษณาว่าสามารถช่วยเติมเต็มร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ใต้ตา หรือริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้าได้ โดยไม่ต้องใช้เข็มหรือทำหัตถการใด ๆ

โดยทั่วไป ฟิลเลอร์แบบทาจะมีสารสำคัญอย่าง Hyaluronic Acid (HA) เป็นส่วนประกอบ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเติมความชุ่มชื้นและทำให้ผิวดูฟูขึ้นในระยะสั้น ทั้งนี้ ระดับการซึมซาบของ HA ผ่านผิวหนังยังมีข้อจำกัด ทำให้การเห็นผลลัพธ์จริงค่อนข้างจำกัดอยู่ที่ผิวชั้นนอกเท่านั้น

ฟิลเลอร์แบบทา เทียบกับ โปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีด ต่างกันอย่างไร?

หัวข้อเปรียบเทียบ ฟิลเลอร์แบบทา โปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีด
จุดที่เติมเต็ม ผิวชั้นนอกเท่านั้น ลึกถึงชั้นหนังแท้หรือลึกกว่านั้น
ความชัดเจนของผลลัพธ์ ไม่ชัดเจน หรือเห็นผลเล็กน้อย เห็นผลทันทีหลังทำ
ระยะเวลาที่เห็นผล ใช้เวลานานและต้องทาต่อเนื่อง เห็นผลได้เลย และชัดเจนขึ้นใน 7-14 วัน
ความเหมาะสม สำหรับผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ ต้องการบำรุงเบื้องต้น สำหรับเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้า เพิ่มมิติ
ความปลอดภัย ขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญการในคลินิกที่ได้มาตรฐาน

จะเห็นได้ว่าฟิลเลอร์แบบทา อาจช่วยให้ผิวดูชุ่มชื้นขึ้นเล็กน้อย แต่ไม่สามารถเติมเต็มหรือปรับรูปหน้าได้อย่างที่ โปรแกรมฟิลเลอร์ แบบฉีดทำได้

ดังนั้น หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน เช่น การลดร่องแก้ม การเติมเต็มใต้ตาลึก หรือการปรับรูปคาง โปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีดคือทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่า

ข้อดีและข้อจำกัดของ ฟิลเลอร์แบบทา

ฟิลเลอร์ทา

เอาล่ะ เดี๋ยวเราพาไปดูกันว่า ฟิลเลอร์แบบทานั้นมี ข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง

ข้อดีของฟิลเลอร์แบบทา

  • ใช้ง่าย ไม่เจ็บตัว
  • เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าเบื้องต้น
  • พกพาสะดวก ใช้ได้ทุกวัน

ข้อจำกัดของฟิลเลอร์แบบทา

  • ไม่สามารถเข้าไปเติมเต็มร่องลึกได้จริง
  • เห็นผลเพียงผิวชั้นนอก
  • หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน ยังจำเป็นต้องพึ่งโปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีด

แล้วใครบ้างที่เหมาะกับฟิลเลอร์แบบทา?

  • ผู้ที่อายุยังน้อย และมีปัญหาผิวไม่รุนแรง
  • ต้องการแค่เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวในระยะสั้น
  • ยังไม่พร้อมทำหัตถการหรือมีความกังวลเรื่องการฉีด

แต่หากคุณมีปัญหาผิวที่ลึกกว่า เช่น ร่องแก้มชัด ใต้ตาลึก คางสั้น ขมับตอบ หรือหน้าผากแบน ฟิลเลอร์แบบทาจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้เท่ากับ โปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีด

line
fb
call

ทำไมต้องเลือกทำ โปรแกรมฟิลเลอร์ที่ Cosmoprime Clinic?

Cosmoprime Clinic ให้บริการ โปรแกรมฟิลเลอร์ ด้วยผลิตภัณฑ์ Hyaluronic Acid (HA) คุณภาพดี ที่สามารถสแกนเช็คได้ว่ามีมาตรฐานรับรอง พร้อมกับการออกแบบการฉีดอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็นบริเวณร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ คาง หรือหน้าผาก

เราดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการวิเคราะห์ใบหน้า ปรึกษาแนวทางการเติมเต็ม ไปจนถึงการติดตามผลหลังทำอย่างละเอียด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาละมุน สวยในแบบที่คุณต้องการ ที่ Cosmoprime Clinic คุณจะได้เข้ารับบริการโดยแพทย์ พร้อมแนวทางการดูแลที่ใส่ใจและเหมาะกับแต่ละบุคคลจริง ๆ

บทสรุป ฟิลเลอร์แบบทาดีไหม ?

ฟิลเลอร์แบบทา มีข้อดีในแง่ของการช่วยเติมความชุ่มชื้นและบำรุงผิวเบื้องต้น แต่หากคุณต้องการปรับรูปหน้าอย่างชัดเจน เติมเต็มร่องลึก หรือเสริมมิติให้ใบหน้า โปรแกรมฟิลเลอร์แบบฉีดยังคงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ตรงมากกว่า

หากคุณกำลังลังเลว่าควรเริ่มดูแลใบหน้าด้วยวิธีไหนดี อยากชวนคุณเข้ามาปรึกษาที่ Cosmoprime Clinic เพื่อให้เราช่วยวิเคราะห์ และออกแบบแผนการดูแลที่เหมาะสมกับคุณที่สุด